วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม









ยังอยู่ในอำเภอเมืองนะครับ ที่นี่แดดร้อนตับแลบเลยครับ ขอแวะไปหลบแดดในสวนสาธารณะก่อนนะครับ


สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม


หนองประจักษ์ มีมาตั้งแต่ก่อนตั้งเมืองอุดรธานี จากเดิมชื่อ " หนองนาเกลือ " เพื่อเป็นเกียรติประวัติแด่ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้สร้างเมืองอุดรธานี จึงเปลี่ยนชื่อเป็น " หนองประจักษ์ " สร้างคุณประโยชน์นานับประการแก่ชาวเมืองอุดรธานี ได้ช่วยเหลือเป็นแหล่งน้ำอุปโภค บริโภค และการเพาะพันธุ์ปลา มีการปรับปรุงขุดลอกและกักเก็บน้ำมาตั้งแต่ เดือนตุลาคม ๒๔๙๖ โดย ขุนศุภกิจวิเลขการ ข้าหลวงประจำจังหวัดอุดรธานี ได้ขอให้กรมชลประทานเป็นผู้ดำเนินการขุดลอกให้ลึก ต่อมาหนองประจักษ์ ขาดการ ปรับปรุงดูแล ทำให้สภาพหนองประจักษ์ตื้นเขิน หนองน้ำต้องประสบต่อวัชพืช สาหร่าย จอกแหน ทรุดโทรมขาดความสวยงามเรื่อยมา ในปี ๒๕๓๐ เทศบาลเมืองอุดรธานี โดยนายฤทธิรงค์ กาญจนแก้ว นายกเทศมนตรี เห็นว่าหนองประจักษ์ หนองน้ำคู่บ้านคู่เมือง มีชื่อ เสียงเป็นที่รู้จัก เป็นสมบัติของขาวเมืองอุดรธานี สมควรให้มีการปรับปรุงพัฒนาเพื่อเป็นศักดิ์ศรี สร้างความร่มรื่นสวยงาม เป็นศรีสง่าแก่ เมืองอุดรธานี จึงได้ทำการปรับปรุงหนองประจักษ์ขึ้นใหม่ทั้งหมด ในเดือนมกราคม ๒๕๓๐ วัตถุประสงค์สำคัญสูงสุด เพื่อสร้างถวายเป็น ราชสักการะ แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช มิ่งขวัญปวงชนชาวไทย เนื่องในวโรกาสเป็นปีที่พระองค์ ทรงเจริญพระชนม์พรรษา ๕ รอบ ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๐ เพื่อเป็นสิริมงคลและเป็นศักดิ์ศรีของชาวเมืองอุดรธานี จึงกราบบังคมทูล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี มาเป็นประธานประกอบพิธีเปิดสวนสาธารณะหนองประจักษ์ เพื่อปวงชนชาวเมืองอุดรธานี จะได้ปลาบปลื้ม ปิติยินดี และจารึกไว้ตลอดกาล ในวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๓๔ เมื่อทำการปรับปรุงทั้งหมดแล้ว หนองประจักษ์จะมีพื้นที่ ทั้งหมด ๓๒๘ ไร่ เป็นพื้นเกาะประมาณ ๖๘ ไร่ พื้นน้ำประมาณ ๒๔๗ ไร่ คันคูและลานพักโดยรอบประมาณ ๑๓ ไร่ ความลึกสูงสุดประมาณ ๔.๐๐ เมตร ความจุน้ำในอ่างประมาณ ๑.๒ ล้านลูกบาศก์เมตร

พักผ่อนกันสักครู่นะครับ หายเหนื่อยแล้วผมจะพาไปเที่ยวที่อื่นต่อครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น